บางแค เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นเขตเกษตรกรรมผสมผสานแหล่งที่อยู่อาศัยสภาพแวดล้อมดีทางฝั่งธนบุรี ปัจจุบันเขตบางแคเป็นเขตที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ในกรุงเทพมหานครรองจากเขตสายไหม เขตบางแคในอดีตเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอหนองแขม จังหวัดธนบุรี มีชื่อว่า ตำบลหลักหนึ่ง ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ตำบลบางแค ตามชื่อคลองสายหนึ่งที่ไหลผ่านพื้นที่และหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมคลองนั้น ต่อมาใน พ.ศ. 2472 สำนักนายกรัฐมนตรีได้ยุบอำเภอหนองแขมมาขึ้นกับอำเภอภาษีเจริญ แต่ในช่วงแรกตำบลบางแคยังคงเป็นท้องที่ปกครองของกิ่งอำเภอหนองแขมอยู่ จนกระทั่งใน พ.ศ. 2473 ทางการจึงโอนตำบลนี้มาขึ้นกับอำเภอภาษีเจริญโดยตรง เนื่องจากอยู่ใกล้กันและติดต่อกันได้สะดวกกว่า
เมื่อมีผู้คนย้ายถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น ใน พ.ศ. 2498 กระทรวงมหาดไทยจึงจัดตั้งสุขาภิบาลบางแคขึ้น ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลบางแค บางหว้า และบางด้วน เพื่อประโยชน์ในการทำนุบำรุงท้องถิ่น และขยายเขตออกไปใน พ.ศ. 2501 และ พ.ศ. 2513 จนกระทั่งมีประกาศคณะปฏิวัติให้รวมจังหวัดธนบุรีกับจังหวัดพระนครเข้าด้วยกันเป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรีใน พ.ศ. 2514 และเปลี่ยนรูปแบบเป็นกรุงเทพมหานครใน พ.ศ. 2515 โดยให้ยุบการปกครองท้องถิ่นรูปแบบสุขาภิบาล รวมทั้งเปลี่ยนคำเรียกเขตการปกครองใหม่ ตำบลบางแคจึงเปลี่ยนฐานะเป็น แขวงบางแค ขึ้นกับเขตภาษีเจริญ ต่อมาพื้นที่ทางทิศตะวันตกของเขตภาษีเจริญมีความเจริญและมีประชากรหนาแน่น ใน พ.ศ. 2538 กรุงเทพมหานครจึงได้ตั้งสำนักงานเขตภาษีเจริญ สาขา 1 ขึ้นเพื่อให้บริการประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในแขวงบางแค แขวงบางแคเหนือ และแขวงบางไผ่
ในที่สุดจึงมีประกาศกระทรวงมหาดไทย แบ่งพื้นที่ในความดูแลของสำนักงานเขตภาษีเจริญ สาขา 1 รวมกับพื้นที่แขวงหลักสองของสำนักงานเขตหนองแขมมาจัดตั้งเป็น เขตบางแค เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2540 และในวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เปลี่ยนแปลงแนวเขตและพื้นที่แขวงทั้งสี่ของเขตบางแคใหม่ เพื่อความชัดเจนและประโยชน์ในด้านการปกครอง การบริหาร และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ประกาศทั้ง 2 ฉบับเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกันคือวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2541 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ได้มีประกาศกรุงเทพมหานครเปลี่ยนแปลงพื้นที่แขวงทั้งสี่ในเขตบางแคใหม่ เพื่อความสะดวกและความชัดเจนแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยประกาศฉบับนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 สิงหาคม ปีเดียวกันรับทำงบกระแสเงินสดเขตบางแค
รับทำงบกระแสเงินสดเขตบางแค,งบกระแสเงินสดเขตบางแค,ทำงบกระแสเงินสดเขตบางแค
-
งบกระแสเงินสด (Cash Flow)
เป็นงบการเงินที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่จะช่วยวิเคราะห์สภาพคล่อง แหล่งที่มาของเงินสด และการใช้จ่าย
งบกระแสเงินสด Cash Flow
หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เงินสด ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ที่จะช่วยให้การดำเนินการทางธุรกิจเป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
กระแสเงินสดที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วยรายการรับและจ่ายเงินสดที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมหลักของกิจการ เช่น รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ ต้นทุนขาย ค่าเสื่อมราคา ค่าเช่า ค่าจ้าง ค่าภาษีกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน
กระแสเงินสดที่เกิดจากการลงทุนต่าง ๆ จากการได้มาและจำหน่ายสินทรัพย์ระยะยาวต่าง ๆ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ ที่ดิน อาคาร หรือการลงทุนในหลักทรัพย์หรือกิจการอื่นกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินทุน
กระแสเงินสดที่เกิดจากการจัดหาเงินทุนจากภายนอกกิจการ หรือการใช้เงินทุนจากภายในกิจการ เช่น การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน การซื้อคืนหุ้น หรือการจ่ายปันผลงบกระแสเงินสด (Cash Flow) คือ?
งบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flow) คือ งบการเงินที่แสดงการได้มาและการใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในกิจการ ซึ่งจะแสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดจากกิจกรรมต่าง ๆ
รายได้ (Income) คือ เงินที่บริษัทได้จากการดำเนินธุรกิจ อาทิเช่น เงินที่ได้จากการขายสินค้าหรือบริการ
รายจ่าย (Expense) คือ เงินที่บริษัทต้องจ่ายในการดำเนินธุรกิจ อาทิ เงินเดือนพนักงาน ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบ
ประโยชน์ของ งบกระแสเงินสด
เป็นงบการเงินที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่จะช่วยวิเคราะห์สภาพคล่อง แหล่งที่มาของเงินสด และการใช้จ่าย และนี่คือเหตุผลที่ทำไมเจ้าของธุรกิจถึงต้องดูงบกระแสเงินสด
ทราบถึงสภาพคล่อง
ทำให้เจ้าของธุรกิจทราบถึงสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ ว่ามีงบกระแสเงินสด หรือ Cash Flow เพียงพอในการดำเนินงาน ชำระหนี้ และแบ่งปันผลตอบแทนหรือไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างทางการเงิน
ทำให้เจ้าของธุรกิจทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างทางการเงินของกิจการ ว่ามีการกู้ยืมเงิน ชำระหนี้ จ่ายปันผล หรือออกหุ้นอย่างไรงบกระแสเงินสดที่ดี ควรเป็นแบบไหน
งบกระแสเงินสด หรือ Cash Flow ที่ดีขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจการและวัตถุประสงค์ของผู้อ่านงบ แต่ในหลักการ งบกระแสเงินสดที่ดีควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
มีกระแสเงินสด จากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวก
กระแสเงินสด หรือ Cash Flow จากกิจกรรมดำเนินงานเป็นตัวสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างรายได้และกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจของกิจการ หากกิจการมีกระแสเงินสด หรือ Cash Flow จากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวก แสดงว่ากิจการมีความสามารถในการสร้างรายได้และกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจ ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพคล่องของกิจการ
มีกระแสเงินสด สุทธิเป็นบวก
กระแสเงินสดสุทธิเป็นตัวสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานและการลงทุนของกิจการ หากกิจการมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก แสดงว่ากิจการมีความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการจ่ายชำระหนี้
กระแสเงินสด จากกิจกรรมลงทุนสอดคล้องกับแผนการลงทุนของกิจการ
หากกระแสเงินสด หรือ Cash Flow จากกิจกรรมลงทุนสอดคล้องกับแผนการลงทุนของกิจการ แสดงว่ากิจการมีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
กระแสเงินสด จากกิจกรรมจัดหาเงินทุนสอดคล้องกับแผนทางการเงินของกิจการ
กระแสเงินสด หรือ Cash Flow จากกิจกรรมจัดหาเงินทุนเป็นตัวสะท้อนถึงการจัดหาเงินทุนของกิจการ หากกระแสเงินสด หรือ Cash Flow จากกิจกรรมจัดหาเงินทุนสอดคล้องกับแผนทางการเงินของกิจการ แสดงว่ากิจการมีการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ
งบกระแสเงินสด หรือ Cash Flow ที่ดี ควรมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวก กระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนสอดคล้องกับแผนการลงทุนของกิจการ และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินทุนสอดคล้องกับแผนทางการเงินของกิจการ และถ้าคุณคือเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการบริหารเงินของธุรกิจคุณให้ทะยานต่อไปได้ไม่มีสะดุด